ผ่าตัดกระเพาะ แล้วยังกลับมาอ้วน ทำยังไงดี?
การ ผ่าตัดกระเพาะ เป็นทางเลือกในการ ลดน้ำหนัก ที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนรุนแรง แต่หลังจากผ่านการผ่าตัดไปแล้ว 1-2 ปี ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งอาจพบว่าน้ำหนักตัวเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความกังวลและตั้งคำถามว่า “ทำไมหลังจาก ผ่าตัดกระเพาะ แล้วถึงยังกลับมาอ้วนอีก?”
วันนี้ เราจึงจะมานำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสาเหตุ วิธีป้องกัน และแนวทางแก้ไขภาวะน้ำหนักตัวที่กลับมาเพิ่มหลังการผ่าตัด
ผ่าตัดกระเพาะ ข้อเสีย ที่ควรรู้ การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักหลังการ ผ่าตัดกระเพาะ
หลังจากการ ผ่าตัดกระเพาะ เพื่อ ลดน้ำหนัก น้ำหนักตัวจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 1-2 ปีแรก หลังจากนั้นการลดลงของน้ำหนักจะเริ่มคงที่ และในผู้ป่วยบางราย อาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดประมาณ 8-10%
ผ่าตัดกระเพาะ ข้อเสีย ที่ควรรู้คือ วิธีการ ผ่าตัดกระเพาะ แต่ละแบบส่งผลต่อการ ลดน้ำหนัก ไม่เท่ากัน
- การผ่าตัดแบบลดการดูดซึม เช่น การ ผ่าตัดกระเพาะ แบบบายพาส จะช่วย ลดน้ำหนัก ได้มากกว่า
- การผ่าตัดแบบจำกัดปริมาณอาหาร เช่น การผ่าตัดรัดกระเพาะ หรือการตัดกระเพาะบางส่วน ช่วย ลดน้ำหนัก ได้น้อยกว่าประมาณ 10-15%
สาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มหลังการ ผ่าตัดกระเพาะ
1. การขยายตัวของกระเพาะอาหาร
กระเพาะอาหารที่ถูกทำให้มีขนาดเล็กลงจากการ ผ่าตัดกระเพาะ สามารถขยายตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะเมื่อผู้ป่วยรับประทานอาหารในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความสามารถในการจำกัดปริมาณอาหารลดลง และส่งผลให้การ ลดน้ำหนัก ไม่ได้ผลในระยะยาว
2. พฤติกรรมการรับประทานอาหารไม่เหมาะสม
การรับประทานอาหารที่มีพลังงานสูง อาหารทานเล่น หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและแคลอรี่สูง รวมถึงการรับประทานอาหารและดื่มน้ำพร้อมกัน ทำให้อาหารผ่านลงสู่ลำไส้เร็วขึ้น กระเพาะอาหารว่างเร็ว และเกิดความรู้สึกหิวบ่อยครั้ง
3. ขาดการออกกำลังกายที่เพียงพอ
การไม่มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอทำให้การเผาผลาญพลังงานลดลง ส่งผลให้พลังงานส่วนเกินถูกสะสมในรูปแบบของไขมัน
4. การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน
การ ผ่าตัดกระเพาะ อาจส่งผลกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกอิ่มและหิว เช่น ghrelin และ leptin ซึ่งอาจมีการปรับตัวในระยะยาว ทำให้ความรู้สึกหิวกลับมาเพิ่มขึ้น
5. ปัจจัยทางจิตวิทยา
ความเครียด ภาวะซึมเศร้า หรือปัญหาทางอารมณ์อื่น ๆ อาจนำไปสู่การกินเพื่อบรรเทาความรู้สึก (emotional eating) ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มขึ้นได้
6. การขาดการติดตามผลกับทีมแพทย์
การไม่ได้รับการติดตามและประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ไม่สามารถตรวจพบและแก้ไขปัญหาในระยะเริ่มต้นได้
5 วิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำหนักตัวเพิ่มหลังการ ผ่าตัดกระเพาะ
1. การควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด
ควรรับประทานอาหารตามคำแนะนำของนักโภชนาการอย่างเคร่งครัด โดยมีหลักการสำคัญดังนี้
- แยกการรับประทานอาหารและน้ำ – ควรดื่มน้ำห่างจากมื้ออาหารประมาณ 30-60 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารผ่านลงสู่ลำไส้เร็วเกินไป
- เลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง – เน้นอาหารประเภทไข่ และถั่วต่าง ๆ เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อและให้ความรู้สึกอิ่มนาน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีแคลอรี่สูง – งดอาหารทอด ขนมหวาน น้ำอัดลม และอาหารแปรรูปที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
- จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ – หลังการผ่าตัด แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมได้เร็วมากขึ้น และให้พลังงานสูงโดยไม่มีสารอาหารที่จำเป็น
- รับประทานช้า ๆ เคี้ยวให้ละเอียด – ช่วยให้รู้สึกอิ่มได้ง่ายขึ้นและป้องกันการอุดตันที่อาจเกิดขึ้นได้
2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายมีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมน้ำหนักและป้องกันไม่ให้น้ำหนักกลับมาเพิ่ม
- ออกกำลังกายแบบแอโรบิก – เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
- เพิ่มการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ –อย่างน้อย 2-3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและอัตราการเผาผลาญ
- เพิ่มกิจกรรมในชีวิตประจำวัน – เดินให้มากขึ้น ใช้บันไดแทนลิฟต์ และลุกขึ้นเคลื่อนไหวทุก ๆ ชั่วโมง
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ – พบนักกายภาพบำบัดหรือผู้ฝึกสอนส่วนตัวเพื่อวางแผนการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
3. การติดตามผลกับทีมแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
การพบแพทย์และทีมสหวิชาชีพตามนัดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
- การตรวจติดตามสม่ำเสมอ –ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบปัญหาและให้คำแนะนำตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
- การตรวจวัดระดับวิตามินและแร่ธาตุ – เพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหารที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด
- การประเมินขนาดกระเพาะอาหาร – เมื่อผ่าตัดครบ 1 ปี ควรได้รับการส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารส่วนบน เพื่อประเมินขนาดกระเพาะอาหารและเส้นรอบวงรอยต่อ
4. การบันทึกอาหารและน้ำหนัก
การติดตามพฤติกรรมการรับประทานอาหารและน้ำหนักตัวอย่างสม่ำเสมอช่วยให้เห็นแนวโน้มและปรับพฤติกรรมได้ทันท่วงที
- จดบันทึกอาหารประจำวัน – บันทึกทุกอย่างที่รับประทาน รวมถึงปริมาณและเวลา
- ชั่งน้ำหนักสม่ำเสมอ – ควรชั่งน้ำหนักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ในเวลาเดียวกันและสภาพแวดล้อมเดียวกัน
- ใช้แอปพลิเคชันช่วยติดตาม – มีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยในการบันทึกอาหารและคำนวณแคลอรี่
5.การรับประทานวิตามินและแร่ธาตุเสริม
หลังการ ผ่าตัดกระเพาะ การดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุอาจลดลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการ ลดน้ำหนัก และสุขภาพโดยรวม จึงจำเป็นต้องได้รับการเสริม
- วิตามินรวม – ควรรับประทานทุกวันตามที่แพทย์แนะนำ
- วิตามินบี12 – มักต้องได้รับการฉีดหรือรับประทานในรูปแบบที่ดูดซึมได้ดี
- แคลเซียมและวิตามินดี – สำคัญสำหรับสุขภาพกระดูก
- ธาตุเหล็ก – โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีประจำเดือน
สรุป
การ ผ่าตัดกระเพาะ เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการ ลดน้ำหนัก ไม่ใช่วิธีการรักษาที่จะให้ผลถาวรโดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและพฤติกรรมการรับประทานอาหารในระยะยาว
การควบคุมน้ำหนักหลังการ ผ่าตัดกระเพาะ ต้องอาศัยความมุ่งมั่น การติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ และการดูแลตนเองอย่างรอบด้าน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ หากพบว่าน้ำหนักเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น ควรปรึกษาทีมแพทย์ทันทีเพื่อหาสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
สำหรับใครที่อยาก ลดความอ้วน ด้วยวิธีที่ถูกต้องสู่การมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ที่ Chula Doctor Clinic เรามีทีมแพทย์ที่พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาอย่างครบวงจร เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิด โรคเบาหวาน
ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับทีมแพทย์ได้ที่ Chula Doctor Clinic เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นได้จากการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสม