โรคเบาหวาน เป็นภาวะที่มีความผิดปกติในระบบเผาผลาญอาหารร่วมกับความผิดปกติของฮอร์โมนอินซูลิน อาหารจึงเป็นหัวใจสำคัญในการควบคุมโรค ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคเบาหวาน ขึ้นตา โรคเบาหวาน ลงไต โรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกชนิดอาหาร ปริมาณอาหาร การบริโภคอาหารให้ตรงเวลา และ เมนู อาหาร เบาหวาน 7 วัน
ทำไมเป็น โรคเบาหวาน จึงต้องควบคุมปริมาณอาหาร
การควบคุมอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษา โรคเบาหวาน เพราะจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน
- เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาล และไขมันให้อยู่ในระดับปกติ หรือใกล้เคียงปกติมากที่สุด
- เพื่อควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- เพื่อชะลอการเกิดโรคแทรกซ้อน
- เพื่อให้ผู้ป่วย โรคเบาหวาน ได้รับสารอาหารครบตามความต้องการของร่างกาย
- เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลสูงหรือต่ำเกินไป
- เพื่อช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้เป็น โรคเบาหวาน ในผู้ใหญ่
การติดตามระดับน้ำตาลในเลือดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ป่วย โรคเบาหวาน เพื่อประเมินประสิทธิภาพของการควบคุมอาหารและการรักษา
- ระดับน้ำตาลในเลือด ก่อนอาหาร: ควรอยู่ระหว่าง 90 – 130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ระดับน้ำตาลในเลือด หลังอาหาร 2 ชั่วโมง: ไม่ควรเกิน 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- HbA1c: ไม่ควรเกิน 7%
หลักในการเลือกรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วย โรคเบาหวาน
หลักสำคัญในการเลือกอาหารสำหรับผู้ป่วย โรคเบาหวาน คือ การรับประทานอาหารหลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม และเป็นเวลา
- รับประทานอาหารให้หลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม
- รับประทานอาหารให้เป็นเวลา
- เลือกรับประทานเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไม่ติดหนัง หรือมีมันน้อย เช่น ปลา อกไก่ เนื้อ หรือ หมูสันใน เป็นต้น
- เลือกผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล ชมพู่ ส้ม เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงผลไม้หวานจัด เช่น ทุเรียน ละมุด ลิ้นจี่ ลำไย ผลไม้ดอง ผลไม้เชื่อม ผลไม้แช่อิ่ม เป็นต้น
- เลือกใช้น้ำมันพืชในการปรุงประกอบอาหาร เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด เช่น ปลาเค็ม ไข่เค็ม ของหมักดอง เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงอาหารเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงขนมหวาน และอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลสูง เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง สังขยา ลอดช่อง เค้ก พาย คุกกี้ ช็อคโกแลต ไอศกรีม น้ำอัดลม ชาเขียว กาแฟสำเร็จรูป เป็นต้น
อาหารที่ผู้ป่วย โรคเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยง
ผู้ป่วย โรคเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันอิ่มตัวสูง และอาหารแปรรูปที่มีโซเดียมสูง
- อาหารที่มีรสหวานทั้งของคาวและของหวาน เช่น หมี่กรอบ แกงมัสมั่น หมูหวาน ขนมจีน น้ำพริก ขนมต่าง ๆ
- อาหารที่มีไขมันสูงและชุปแป้งทอด เช่น ขาหมู ไก่ตอน หนังเป็ด หนังไก่ เครื่องในสัตว์ หอยทอด กล้วยแขก ปาท่องโก๋ แคปหมู
- ผลไม้หวานจัด เช่น ละมุด ลำไย ขนุน อ้อย ผลไม้แห้ง ผลไม้เชื่อม แช่อิ่ม กวน ผลไม้หมักดอง ผลไม้กระป๋อง
- เครื่องดื่ม เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน แอลกอฮอล์ นมข้นหวาน นมรสหวาน โอวัลติน ไมโล โกโก้
- น้ำผึ้ง หมากฝรั่ง ลูกอมต่าง ๆ อาหารกรุบกรอบสำเร็จรูป
อาหารที่ผู้ป่วย โรคเบาหวาน ควรงด
มีอาหารบางประเภทที่ผู้ป่วย โรคเบาหวาน ควรงดเว้นเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
- นมไขมันเต็มส่วน
- เนื้อสัตว์ติดมัน ติดหนัง และเครื่องในสัตว์ทุกชนิด
- เบเกอรี่ เค้ก พาย คุกกี้ ขนมหวาน
- น้ำอัดลม
- ผลไม้หวานจัด เช่น ทุเรียน ขนุน ละมุด ลิ้นจี่ ลำไย ผลไม้ดอง ผลไม้เชื่อม ผลไม้แช่อิ่ม เป็นต้น
- น้ำมันหมู น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว
- อาหารที่มีรสเค็มจัด เช่น ปลาเค็ม ไข่เค็ม ของหมักดองทุกชนิด
อาหารที่ผู้ป่วย โรคเบาหวาน ควรบริโภค
ผู้ป่วย โรคเบาหวาน ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ มีเส้นใยสูง และไขมันดีต่อสุขภาพ
- นมพร่องมันเนย
- ปลา อกไก่ หมูหรือเนื้อสันใน
- ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท
- ถั่วเมล็ดแห้ง และธัญพืชต่าง ๆ
- ผักใบเขียว
- ผลไม้ที่ไม่หวาน เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล ชมพู่ ส้ม เป็นต้น
- น้ำมันพืชที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด เป็นต้น
เมนู อาหาร เบาหวาน 7 วัน
การวางแผนเมนูอาหารเบาหวานล่วงหน้าช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมปริมาณอาหารและสารอาหารที่ได้รับในแต่ละวันได้ดีขึ้น
วันจันทร์
- เช้า: ข้าวกล้อง + ไข่ตุ๋น + ผักสด + ชมพู่ 1 ผล
- กลางวัน: ข้าวกล้อง + แกงจืดเต้าหู้ + ปลานึ่งมะนาว + ส้ม 1 ผล
- เย็น: ข้าวซ้อมมือ + ต้มยำปลา + ผัดผักรวมมิตร
วันอังคาร
- เช้า: ข้าวต้มปลา + ผักสด + ฝรั่ง 1 ผล
- กลางวัน: ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส + อกไก่ + ผักสด + แอปเปิ้ล 1 ผล
- เย็น: ข้าวกล้อง + ปลานึ่ง + ผัดคะน้าน้ำมันหอย
วันพุธ
- เช้า: โจ๊กไข่ขาว + ผักสด + มะละกอสุก 6-8 ชิ้น
- กลางวัน: ข้าวกล้อง + แกงส้มผักรวม + ไก่ย่างไม่มีหนัง + ส้มโอ 2 กลีบ
- เย็น: สลัดผัก + อกไก่ย่าง + น้ำสลัดน้ำมันมะกอก
วันพฤหัสบดี
- เช้า: ขนมปังโฮลวีท + นมพร่องมันเนย + ไข่ดาว 1 ฟอง + ชมพู่ 2 ผล
- กลางวัน: ข้าวกล้อง + ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ + ปลานึ่งซีอิ๊ว + ส้ม 1 ผล
- เย็น: ข้าวกล้อง + แกงเลียงกุ้งสด + ผัดผักบุ้งไฟแดง
วันศุกร์
- เช้า: ข้าวต้มปลา + ผักสด + แอปเปิ้ล 1 ผล
- กลางวัน: ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำใส + เนื้อปลา + ผักสด + ฝรั่ง 1 ผล
- เย็น: ข้าวกล้อง + ต้มยำปลา + ผัดผักกาดขาว
วันเสาร์
- เช้า: ข้าวกล้อง + ไข่ตุ๋น + ผักสด + มะละกอสุก 6-8 ชิ้น
- กลางวัน: ข้าวกล้อง + แกงจืดวุ้นเส้น + ไก่นึ่งซีอิ๊ว + ส้มโอ 2 กลีบ
- เย็น: ข้าวซ้อมมือ + ต้มแซ่บเนื้อสันใน + ผัดบวบเหลี่ยม
วันอาทิตย์
- เช้า: ซุปข้าวโอ๊ต + นมพร่องมันเนย + ไข่ต้ม + ชมพู่ 2 ผล
- กลางวัน: ข้าวกล้อง + ต้มยำปลา + ผัดผักรวม + แอปเปิ้ล 1 ผล
- เย็น: ข้าวกล้อง + ต้มจืดฟัก + ปลานึ่งมะนาว
นอกจากนี้ การเลือกรับประทานอาหารเฉพาะ โรคเบาหวาน ที่ถูกต้องยังช่วยรักษาโรคอ้วนซึ่งเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุของ โรคเบาหวาน ช่วยควบคุมไขมันในเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง และชะลอการเกิดโรคไตได้อีกด้วย
สรุป
การควบคุมอาหารเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลตนเองของผู้ป่วย โรคเบาหวาน การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม เบาหวาน กินอะไรได้บ้าง ไม่เพียงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ผู้ป่วย โรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์และนักโภชนาการเพื่อวางแผนเมนูอาหารเบาหวานที่เหมาะสมกับตนเอง เนื่องจากความต้องการทางโภชนาการของแต่ละคนอาจแตกต่างกันตามสภาวะร่างกาย ระดับความรุนแรงของโรค และการรักษาที่ได้รับ
การรับประทานอาหารที่เหมาะสมร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการใช้ยาตามแพทย์สั่ง จะช่วยให้ผู้ป่วย โรคเบาหวาน สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ห่างไกลจากภาวะแทรกซ้อน และมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว
สำหรับใครที่อยาก ลดความอ้วน ด้วยวิธีที่ถูกต้องสู่การมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ที่ Chula Doctor Clinic เรามีทีมแพทย์ที่พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาอย่างครบวงจร ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะน้ำหนักเกินอย่างถูกวิธีเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิด โรคเบาหวาน
ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับทีมแพทย์ได้ที่ Chula Doctor Clinic เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นได้จากการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสม